AIR SCOURING (การใช้ลมเพื่อช่วยทำความสะอาดสารกรองน้ำ)
💧 Air Scouring คืออะไร
Air Scouring คือกระบวนการใช้ ลมอัดแรงดันต่ำ (Low Pressure Air)
เพื่อช่วยขจัด ตะกอน (Sediment), ชั้นฟิล์มจุลชีพ (Biofilm) และ คราบหินปูน (Mineral Scale)
ที่เกาะสะสมอยู่บนผิวของ สารกรองน้ำ (Filter Media)
ซึ่งการล้างแบบ Backwash ปกติอาจไม่สามารถขจัดออกได้หมด —
พูดง่าย ๆ คือ “เหมือนการขัดฟันให้แปรงอย่างเดียวไม่พอ ต้องใช้ไหมขัดฟันด้วย” 😄
หลักการคือ การอัดลมเข้าสู่ถังกรองในขณะที่มีน้ำอยู่บางส่วน
ให้เกิดการ ผสมระหว่างอากาศและน้ำ (Air–Water Mixing)
จนเกิดแรงเฉือน (Shear Force) และการกระเพื่อม (Agitation) ภายในชั้นสารกรอง
ทำให้เกิดการ “ขยายตัวของสารกรอง (Expanding Bed)”
ช่วยสลายการเกาะยึดของอนุภาคต่าง ๆ ออกจากเม็ดสารกรองได้อย่างมีประสิทธิภาพ
⚙️ ประโยชน์ของการใช้ระบบ Air Scouring
💧 ลดปริมาณน้ำที่ใช้ล้าง Backwash ปกติ ได้มากกว่า 50%
⚡ ประหยัดพลังงานและค่าใช้จ่ายระยะยาว เช่น ค่าไฟฟ้าและค่าแรง
🧱 ยืดอายุการใช้งานของสารกรอง (Media) และอุปกรณ์ภายในถัง
📈 ลด Hydraulic Pressure Drop → เพิ่มอัตราการผลิตน้ำต่อรอบล้าง
🌊 คุณภาพน้ำหลังกรองดีขึ้น น้ำใสขึ้น
🧠 ระบบผลิตน้ำขั้นสูง เช่น Reverse Osmosis (RO) หรือ UF/MF Membrane จะมีประสิทธิภาพและอายุการใช้งานยาวนานขึ้น

🧩 Media Expansion — หัวใจของการออกแบบ : Media expansion during air scouring design การออกแบบการขยายตัวสารกรองขณะป้อนลมเพื่อช่วยทำความสะอาดถังกรองน้ำ
หัวใจสำคัญในการออกแบบระบบ Air Scouring
🧠 หัวใจสำคัญในการออกแบบระบบ Air Scouring
🔸 การคำนวณอัตราการจ่ายลม (Air Flow Rate)
ต้องเหมาะสมกับพื้นที่หน้าตัดของถังกรอง เพื่อให้ เฉพาะชั้นสารกรองประสิทธิผล (Effective Bed)
เกิดการขยับตัวโดยไม่กระทบต่อชั้นรองรับ (Supporting Bed)
โดยทั่วไปอัตราการจ่ายลมอยู่ที่ 40–60 m³/m²·h
🔸 การกระจายลม (Air Distribution)
ต้องกระจายทั่วถึง เพื่อป้องกัน Dead Zone หรือจุดที่สารกรองไม่ขยับ
นิยมใช้หัวจ่ายลมหรือท่อกระจายลมแบบ Cross Header / Radial Design
เพื่อให้การกระจายลมสม่ำเสมอทั่วถัง — ไม่อย่างนั้นบางจุดลมแรง บางจุดเงียบราวกับไม่อยากร่วมวง 😅
🔸 ระดับน้ำขณะทำ Air Scouring (Water Level)
ระดับน้ำต้องต่ำกว่าท่อจ่ายน้ำเข้า (Feed Inlet)
เพื่อป้องกันการ Overflow และเพิ่มแรงเฉือนในชั้นสารกรอง
🔸 โครงสร้าง Supporting Bed
ต้องมั่นคง แข็งแรง ไม่ให้เม็ดกรวดหรือชั้นรองรับขยับระหว่างทำ Air Scouring
เพราะถ้าชั้นรองเกิด “เต้นระบำ” พร้อมกันเมื่อเจอลมแรง
ผลที่ได้อาจไม่ใช่ถังกรองสะอาด…แต่เป็นถังที่ต้องเปลี่ยนหัวกระจายลมใหม่ทั้งชุด 😅
🔸 ระบบควบคุมอัตโนมัติ (Automation)
ปัจจุบันนิยมใช้ระบบ Valve + PLC
เพื่อสลับโหมดระหว่าง Air Scouring และ Backwash
ช่วยให้ควบคุมได้แม่นยำ และลดการใช้แรงงานคน
การออกแบบการบำรุงรักษา (Maintenance Design)
🧰 การออกแบบเพื่อบำรุงรักษา (Maintenance Design)
หนึ่งในปัญหาหลักของระบบ Air Scouring คือ หัวจ่ายลมหรือท่อกระจายลมอุดตัน เมื่อใช้งานไปนาน ๆ
ถ้าไม่ได้ออกแบบให้ “ถอดล้างได้ง่าย” จะต้อง ระบายน้ำออกทั้งถัง (Empty Tank) ทุกครั้ง
ซึ่งทำให้เสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่าย (แถมคนดูแลก็เสียอารมณ์เล็กน้อย 😂)
🔧 แนวทางการออกแบบระบบถอดล้าง (Quick Maintenance Design)
ใช้ Quick Coupling / Flange Connection สำหรับถอดท่ออากาศจากด้านบนถัง
ออกแบบ Guide Rail / Swing Arm System ให้ยกชุดท่อ Diffuser ขึ้นมาจากผิวน้ำได้โดยไม่ต้องถ่ายน้ำออก
แยก Manifold เป็น Section ย่อยพร้อม Valve Isolation เพื่อซ่อมเฉพาะส่วนที่อุดตัน
ติดตั้ง Air Release Valve เพื่อป้องกันแรงดันย้อนกลับขณะถอดอุปกรณ์
📘 สรุป
Air Scouring เป็นเทคนิคที่ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพให้ถังกรองทั้งในระบบผลิตน้ำประปาและระบบบำบัดน้ำเสีย
โดยเฉพาะเมื่อออกแบบระบบลมและระบบถอดล้างอย่างเหมาะสม
จะช่วยให้ระบบกรองสะอาดขึ้น อายุการใช้งานยาวนานขึ้น
และลดการหยุดเดินระบบได้อย่างมีนัยสำคัญ
💭 “ถ้า Backwash คือการอาบน้ำให้สารกรอง — Air Scouring ก็เหมือนการขัดหลังให้มันสะอาดจริง ๆ” 🛀